ความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นและตลาดหุ้น
เมื่อก่อนที่ผมยังไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับตลาดหุ้น และการลงทุนในหุ้นอย่างละเอียด ผมเองก็มีความรู้สึกคล้ายๆกับคนทั่วไปที่มีความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับตลาดหุ้นและการลงทุนในหุ้น ในหลายประเด็น เช่น
1.การลงทุนหุ้นเป็นการพนัน หรือตลาดหุ้นเป็นบ่อนการพนันที่ถูกกฎหมาย
คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น ซึ่งส่อไปในทางการพนันชัดเจน คือการแทงหวยหรือเล่นหวยเป็นการพนันของคนจน หรือแหล่งแสวงหาโชคของคนจน การเล่นหุ้นเป็นแหล่งพนันชั้นหรูขึ้นมาหน่อยของคนรวย ซึ่งเป็นความจริงบางส่วนเท่านั้น
การเล่นหุ้นเป็นการพนัน แต่การลงทุนในหุ้นอย่างมีความรู้ไม่ใช่การพนัน
หมายความว่า หากคุณเล่นหุ้นโดยไม่มีความรู้ ซื้อขายหุ้นเพื่อเก็งกำไร ถือว่าเป็นการพนัน เพราะมีความเสี่ยงสูง เสี่ยงที่จะขาดทุนมากกว่าได้กำไร เพราะการพนันเป็น zero sum game นั้นคือเมื่อมีคนได้กำไร ก็มีคนขาดทุน
แต่การลงทุนเป็นการซื้อธุรกิจ เป็นการเข้าร่วมทำธุรกิจที่เราชอบ เราสนใจ เช่นผมและครอบครัวชอบอ่านหนังสือ และ ฝันอยากมีร้านหนังสือเป็นของตัวเอง ซึ่งการลงทุนเปิดร้านหนังสือ1ร้าน ขนาดเท่าซีเอ็ด1สาขา ต้องใช้เงินลงทุน5-10ล้านบาท ซึ่งไม่ใช้เงินที่น้อยเลย อีกทั้งต้องมีความรู้หลายด้านเช่น ทำเล การบริหารจัดการร้านค้า การบริหารงานบุคคล ความรู้เรื่องการเงิน อีกทั้งต้องมีเวลาไปคอยดูแล ไปบริหารร้าน ยังกังวลอีกว่าหากเราไม่อยู่ พนักงานจะโกง หรือ สินค้าจะถูกขโมยโดยพวกลูกค้าที่ไม่ซื่อสัตย์หรือไม่ อื่นๆอีกสารพัด
หากผมเปิดร้านขายหนังสือเอง ผมคงทำได้ไม่ดี หรือคงสู้ร้านซีเอ็ดไม่ได้
แต่นับว่าโชคดี เดี๋ยวนี้มีตลาดหุ้น ที่แม้เงินไม่มากคุณก็มีโอกาสเป็นเจ้าของร้านหนังสือได้ โดยซื้อหุ้นของบริษัทซีเอ็ด ซึ่งมีประสบการณ์ในการขายและบริหารจัดการเป็นอันดับหนึ่งในวงการหนังสือ มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย โดยคุณไม่ต้องวุ่นวายเข้าไปบริหารร้านให้ยุ่งยาก ถึงฤดูปันผล เราก็รับเงินปันผลเข้าบัญชี สบายๆ
2.คนรวยจึงจะลงทุนได้ คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น เล่นหุ้นต้องใช้เงินเยอะ
การลงทุนไม่จำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่ เพียงหลักหมื่นก็สามารถเริ่มลงทุนได้แล้ว ในระยะแรกๆผมก็ไม่แนะนำให้ใช้เงินจำนวนมากๆมาลงทุน สิ่งที่ต้องทำก่อนคือลงทุนในความรู้ต่างหาก มีเพื่อนๆนักลงทุนของผมบางคนเริ่มลงทุนด้วยเงินเพียงหมื่นบาท หลังจากนั้น ทำงานได้ เก็บเงินได้ก็ค่อยๆลงทุนเพิ่มไปเดือนละไม่กี่พันบาท หุ้นเหมือนการออมเงิน การไม่มีความรู้แล้วลงทุนด้วยเงินก้อนโตเป็นความเสี่ยงอย่างยิ่ง หากมีความรู้และเชี่ยวชาญดีแล้ว เงินน้อยก็จะกลายเป็นเงินก้อนโตได้ ค่อยๆศึกษา เรียนรู้และค่อยๆทยอยลงทุน
ผมจึงเปลี่ยนประโยคใหม่ “อยากจนให้เล่นหวย หากอยากรวยให้ลงทุนในหุ้น”
3.การลงทุนเป็นความเสี่ยงสูงสุด อาจหมดตัวได้ ควรหลีกเลี่ยงให้ไกล
เมื่อเกิดวิกฤติต้มยำกุ้งหลายคนคงได้ข่าว นักเล่นหุ้นขาดทุนอย่างหนักจนหมดตัว ถึงขั้นฆ่าตัวตายก็มี สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะเล่นหุ้นเป็นการพนัน ซ้ำร้ายบางคนกู้เงินมาเล่นหุ้น เมื่อหุ้นตกหนัก บริษัทที่นักเล่นหุ้นไปกู้มาจะบังคับให้ขายหุ้นเรียกเอาเงินคืนจนหมดตัว หากเล่นหุ้นแบบนี้ ซื้อมาขายไปเป็นการพนัน และมีความเสี่ยงสูงสุด
แต่หากเป็นการลงทุนในหุ้นอย่างมีความรู้ ความเสี่ยงจะลดลง และผมถือว่าไม่ใช่การพนัน การหลีกเลี่ยงการพนันเป็นอีกค่านิยมหนึ่งที่ผมและภรรยาปลูกฝั่งให้แก่ลูกสาวทั้งสอง ครอบครัวของเราเกลียดการพนันเป็นที่สุด แต่พวกเรารักการลงทุน รักการเสาะแสวงหาและการได้เป็นหุ้นส่วนกับบริษัทดีๆ
4.ต้องคนมีความรู้สูงๆหรือผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นจึงจะลงทุนได้
เมื่อผมศึกษาเรื่องการลงทุนในหุ้นมากๆ พบว่าการลงทุนในหุ้นไม่ยาก และไม่ต้องใช้สมองระดับอัจฉริยะ แค่ความรู้ระดับมัธยมปลายก็เพียงพอสำหรับการลงทุน การลงทุนสิ่งที่สำคัญพอๆกับความรู้คือการมีระเบียบวินัยและการอดทน การรู้จักควบคุมความโลภและความกลัว แล้วผมจะอธิบายให้ฟังในวันหลัง....
5.การลงทุนหุ้นต้องใช้เวลามากในการติดตาม
การลงทุนในหุ้นเหมือนกับการซื้อบริษัท เราไม่จำเป็นต้องนั่งเฝ้าจอดูราคาหุ้นทุกวัน ทุกชั่วโมง ใช้เวลาอ่านข้อมูลและติดตามข่าวของบริษัทที่เราลงทุนสักอาทิตย์ละ1-2ชั่วโมงก็เหลือเฟือ เน้นหนักเฉพาะช่วงที่บริษัทประกาศผลการดำเนินงานก็พอ
6.คนลงทุนหุ้นเป็นพวกขี้เกียจหวังรวยทางลัด ไม่ทำงานทำการ
นักลงทุนจะขี้เกียจหรือขยันไม่เกี่ยวกัน อย่างผมนี่เข้าขั้น ขยัน....
และการลงทุนก็ไม่ได้ทำให้รวยทางลัด แต่เป็นการช่วยให้เงินไปทำงานให้เรา หากจะรวยก็รวยแบบสมเหตุสมผลต่างหาก เบื้องหลังใบหุ้นที่เราถืออยู่มีคนทำงานกันจริง ซึ่งก็คือพนักงานของบริษัทที่เราถือหุ้นไงครับ
ตลาดหุ้นไม่ใช่บ่อนการพนัน แต่เป็นแหล่งที่ผมและครอบครัวได้เลือกซื้อธุรกิจดีๆ การลงทุนต้องเรียนรู้ศึกษาอย่างจริงจัง เริ่มต้นให้เร็วและยิ่งรู้มากจะช่วยลดความเสี่ยงได้ การไม่ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นต่างหากคือความเสี่ยง การลงทุนไม่ยากอย่างที่หลายคนคิด ความรู้ระดับมัธยมก็สามารถเรียนรู้ได้ และใช้เวลาไม่มาก ผมและครอบครัวใช้การลงทุนในหุ้น เป็นสถานที่ๆให้เงินทำงาน ทุกๆครั้งที่ผมคิดและวิเคราะห์บริษัทที่ผมจะซื้อ ผมจะเล่าให้ลูกสาวทั้งสองฟังเสมอ ว่าผมคิดและมีเหตุผลอะไรที่ซื้อหุ้นของบริษัทนั้นๆ ทุกๆเดือนผม ภรรยา และลูกๆจะแวะไปเยี่ยม ไปดูกิจการของร้านซีเอ็ดที่ผมและครอบครัวได้ซื้อไว้